ฟุตบอลเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022 หรือศึกชิงแชมป์อาเซียน ในรอบแบ่งกลุ่มใกล้สิ้นสุดลงแล้ว โดยล่าสุดทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย บุกไปเสมอกับ อินโดนีเซีย 1-1 ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ทีมชาติไทย นำ “จ่าฟูง” กลุ่ม เอ เตะไป 3 นัด มี 7 แต้มเท่ากับ อินโดนีเซีย แต่ลูกได้เสีย ทีมชาติไทย ดีกว่า
ส่วนอันดับ 3 เป็น กัมพูชา ที่เตะไป 3 นัด มี 6 แต้ม ทำให้นัดเกมนัดสุดท้าย ทั้งสามทีมมีลุ้นที่จะเข้ารอบถ้ามีผลแพ้ชนะ โดยเกมจะเกิดขึ้นในวันที่ 2 มกราคม 66 ซึ่งทีมชาติไทย พบ กัมพูชา ที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต ส่วนอีกคู่ ฟิลิปปินส์ ที่ตกรอบแน่นอนแล้วจะพบกับ อินโดนีเซีย ในวันเดียวกัน เวลา 19.30 น.
จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ เกิดเงื่อนไขในการลุ้นเข้ารอบของ ทีมชาติไทย แม้ว่าผลงานในรอบแบ่งกลุ่มจะยังไม่แพ้ใคร เตะไป 3 นัด ชนะ 2 เสมอ 1 แต่แต้มก็ยังไม่ขาดทำให้เงื่อนไขในการเข้ารอบรองชนะเลิศของทัพ “ช้างศึก” มีดังนี้
1.ถ้า ทีมชาติไทย ชนะ หรือ เสมอ กับ กัมพูชา ก็จะผ่านเข้ารอบทันที โดยจะเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ของกลุ่ม ก็ต้องรอลุ้นผลในคู่ระหว่าง ฟิลิปปินส์ พบ อินโดนีเซีย ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าผลออกมา ทีมชาติไทย ชนะกัมพูชา แล้วอินโดนีเซีย มีผลเสมอ หรือแพ้ หรือผลออกมาเสมอกันทั้งสองคู่ ทีมชาติไทย จะเป็นอันดับ 1 แต่ถ้า ทีมชาติไทย เสมอ แล้ว อินโดนีเซีย ชนะ จะทำให้ทีมชาติไทยเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม อินโดนีเซีย จะเป็นอันดับ 1 เข้ารอบทั้งคู่
2.กรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด ทีมชาติไทย แพ้ กัมพูชา จะทำให้ กัมพูชา เข้ารอบเนื่องจากมี 9 แต้ม ส่วนทีมชาติไทย ต้องลุ้น อินโดนีเซีย แพ้ด้วยสกอร์เดียวกันหรือมากกว่า แต่ถ้าทีมชาติไทยแพ้ แล้วอินโดนีเซีย เสมอ หรือ ชนะ อินโดนีเซียจะเข้ารอบ ส่วนทีมชาติไทย ตกรอบทันที
สำหรับโปรแกรมฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 กลุ่ม เอ นัดสุดท้าย มีดังต่อไปนี้
วันที่ 2 มกราคม 2566
ไทย พบ กัมพูชา เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 9 MCOT หมายเลข 30และ T-Sport7
ฟิลิปปินส์ พบ อินโดนีเซีย เวลา 19.30 น.
Source: asiasport.com