FSG หรือ เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป เจ้าของสโมสร ลิเวอร์พูล กำลังจับตากระบวนการเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับในศึก พรีเมียร์ลีก อย่างใกล้ชิด หลังจากที่มีแถลงการการยื่นข้อเสนอจากทุนในกาตาร์ออกมาเมื่อวันก่อน
รายงานข่าวจาก เดอะการ์เดียน สื่อดังของอังกฤษเปิดเผยว่า ชีค ยาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ทานี ผู้บริหารของ QIB หรือ Qatar Islamic Bank ได้ทำการยื่นข้อเสนอเพื่อเทคโอเวอร์หุ้นของทีม ปีศาจแดง 100% ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าอย่างน้อย 4 พันล้านปอนด์ไปเมื่อวานนี้ พร้อมทั้งแผนฟื้นฟูสโมสรซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นการใช้หนี้ประมาณ 5-600 ล้านปอนด์ด้วย
ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลต่อการขาย ลิเวอร์พูล ของ FSG หลังจากที่ก่อนหน้านั้นกลุ่มทุนที่ชื่อ QIA หรือ Qatar Investment Authority ได้เปิดการเจรจาเพื่อยื่นข้อเสนอเพื่อขอซื้อทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์มาแล้ว แต่สุดท้ายทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ ทำให้พวกเขาถอนตัวออกไปและมีข่าวว่าหันไปให้ความสนใจที่จะถือหุ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับร่วมลีกแทน ก่อนที่ท้ายที่สุดกลายเป็นกลุ่ม QIB ที่เข้ายื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ
รายงานระบุว่าสาเหตุที่ทำให้การเจรจาล้มเหลวนั้นมาจากการที่เจ้าของทีม หงส์แดง ยังต้องการเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของสโมสรโดยพร้อมขายให้กับผู้ลงทุนจากตะวันออกกลางเพียง 20-30% หรือคิดเป็นเงินประมาณ 2 พันล้านปอนด์ ซึ่งก็ได้รับการปฏิเสธ
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ FSG กำลังจับตามองการเข้าเสนอราคาขอซื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด ของกลุ่ม QIB อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสื่อในอังกฤษเชื่อว่าหากดีลนี้ประสบความสำเร็จซึ่งคาดว่าจะเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านปอนด์ จะทำให้มีผลต่อมูลค่าของ ลิเวอร์พูล ที่อาจจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยหากทางกลุ่มทุนอเมริกันเปิดรับข้อเสนอยจากภายนอกอีกครั้ง
จอห์น เฮนรี เจ้าของ FSG ได้เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์เมื่อปี 2010 ในราคาเพียง 300 ล้านปอนด์ ซึ่ง ณ ปัจจุบันมูลค่าของสโมสรเพิ่มขึ้นสูงถึง 4 พันล้านปอนด์หรือเกินกว่า 10 เท่าจากการจัดอันดับของนิตสาร ฟรอปส์ เมื่อปีที่แล้ว
Source: 90min.com